A homepage subtitle here And an awesome description here!

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี

เมื่ออายุมากขึ้น สัญญาณของกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ก็จะเริ่มถามหา เริ่มเดินมีเสียงที่เข่า เจ็บแปลบ ปวดเอว หรือปวดหลัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ควรดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่เนิ่น ๆ และคนไทยส่วนใหญ่ยังเข้าใจเพียงแค่ การดูแลกระดูกและข้อเสริมแคลเซียมก็เพียงพอแล้ว ทั้งที่จริง ๆ แล้วการเสริมด้วยคอลลาเจนก็เป็นส่วนคำคัญเช่นกัน

ในช่วงอายุ 25-30 ปีจะเป็นช่วงที่กระดูกมีมวลหนาแน่นมากที่สุดเนื่องจากมีการสะสมมาตั้งแต่วัยเด็ก แต่หลังจากที่เราเริ่มอายุได้ 30 ปีขึ้นไป มวลกระดูกของเราก็จะเริ่มลดน้อยลงเรื่อย ๆ แต่ทางออกก็คือ เราสามารถลดอัตราการสูญเสียมวลกระดูกลงได้ด้วยการรับประทานคอลลาเจนเสริมควบคู่ไปกับการรับประทานแคลเซียม เนื่องจากคอลลาเจนจะทำหน้าที่เหมือนเสาให้แคลเซียมเกาะเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูก และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ โดยเฉพาะในกระดูก ข้อกระดูก กระดูกอ่อน หลอดเลือด รวมถึงผิวหนัง

#คอลลาเจนคืออะไร  คือเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่ง เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ขน และเส้นผม ช่วยทำให้ผิวหนังคงความเต่งตึง ยืดหยุ่นเรียบเนียน กระชับ อีกทั้งยังเป็นองค์ประกอบของกระดูก กระดูกอ่อน จึงมีการนำคอลลาเจนไปใช้ในคนไข้โรคข้อเข่าเสื่อม คนที่มีภาวะกระดูกบางหรือกระดูกเปราะ 
ข้อมูลอ้างอิง จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ด้วยเหตุนี้จึงมีการนำคอลลาเจนมาใช้กับผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมหรือในผู้ที่มีภาวะกระดูกบางหรือกระดูกเปราะด้วย โดยเฉพาะ “คอลลาเจนไดเปปไทด์” เพราะจากงานวิจัยล่าสุดเราได้พบว่าคอลลาเจนไดเปปไทด์นั้นสามารถช่วยในเรื่องกระดูกและข้อได้ ดังนี้
>>ช่วยป้องกันการเสื่อมของกระดูกอ่อนและยับยั้งการบางลงของกระดูกอ่อน
>>ช่วยยับยั้งการเสื่อมของเซลล์คอนโดไซด์ (Chondrocytes) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างกระดูกอ่อน
>>ช่วยกระตุ้นการสร้างไกลโคสะมิโนไกลแคน (Glycosaminoglycan) ซึ่งมีคุณสมบัติดูดน้ำ จึงทำให้เนื้อเยื่อข้อต่อสามารถทนทานต่อแรงกดดันได้
>>ช่วยเพิ่มน้ำในข้อต่อ ทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและไม่เกิดการขัดกัน
>>ช่วยลดการเปลี่ยนแปลงเซลล์กระดูกที่ผิดปกติในหนูทดลองที่เป็นโรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) จึงมีส่วนช่วยลดภาวะความเสื่อมของข้อ สามารถช่วยลดการอักเสบและอาการเจ็บปวดจากการเคลื่อนไหวในบริเวณเซลล์กระดูกอ่อนได้ (จากการศึกษาของ University of Tübingen ประเทศเยอรมนี ที่ทำการทดลองในประชากรที่มีภาวะข้อเสื่อมจำนวน 2,000 คน ที่ได้รับคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยให้เล็กลงในปริมาณ 5 กรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน)
>>ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง
>>ช่วยควบคุมการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่ทำลายกระดูก (Osteoblast) และเซลล์ที่สร้างกระดูก (Osteoclasts) ให้ทำงานได้อย่างสมดุลเนื่องจากกระบวนการสร้างกระดูกจะมีการสลายและการสร้างทดแทนกันอยู่ตลอดเวลา

คอลลาเจนไดเปปไทด์คืออะไร ?
คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen dipeptide) คือ นวัตกรรมใหม่ของการสกัดคอลลาเจน (ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน) ที่ถูกพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบของ “ไดเปปไทด์” ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่มีกรดอะมิโนที่เป็นโครงสร้างหลักของคอลลาเจนเรียงต่อกันเพียง 2 ตัวเท่านั้น จึงทำให้โมเลกุลมีขนาดเล็กมากเฉลี่ยเพียง 200 ดาลตัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องถูกย่อยที่กระเพาะอาหาร แต่จะถูกลำเลียงและดูดซึมที่ลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือดและเข้าตรงสู่เซลล์เป้าหมายอย่างเซลล์ผิวหนัง เซลล์กระดูก และเซลล์กระดูกอ่อนได้

ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็ต้องอธิบายว่า ตามปกติแล้วในเส้นใยโปรตีนคอลลาเจนทั่วไปในอาหาร เช่น หนังสัตว์ อาจจะมีโมเลกุลใหญ่กว่า 300,000 ดาลตัน เมื่อนำมาผ่านกระบวนการย่อยลดขนาดจะได้เป็น “คอลลาเจนเปปไทด์สายยาว” และถ้าย่อยให้เล็กลงอีกด้วยการใช้เอนไซม์บางชนิดมาตัดสายคอลลาเจนที่สกัดออกมาได้ให้เป็นสายสั้น ๆ ก็จะได้เป็น “คอลลาเจนเปปไทด์สายสั้น” ที่มีโมเลกุลขนาด 2,000 ดาลตัลที่พร้อมดูดซึม (ดูดซึมได้ช้า) และเมื่อย่อยให้เล็กลงจนเหลือกรดอะมิโนเรียงต่อกัน 3 ตัว ก็จะได้เป็น “คอลลาเจนไตรเปปไทด์” ที่จะมีโมเลกุลเฉลี่ย 500-1000 ดาลตัน (ซึ่งจะดูดซึมได้ปานกลาง) แต่ด้วยการคิดค้นและพัฒนารูปคอลลาเจนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดจึงได้มีการย่อยลดขนาดให้เล็กลงอีกจนเหลือเพียงกรดอะมิโนเรียงต่อกัน 2 ตัว ก็จะได้เป็น “คอลลาเจนไดเปปไทด์” ที่มีโมเลกุลเฉลี่ยเล็กมากเพียง 200 ดาลตันเท่านั้น ซึ่งสามารถดูดซึมได้เร็วและมากกว่าคอลลาเจนไตรเปปไทด์หลายเท่าตัว 

Donutt คอลลาเจนไดเปปไทด์ พลัส แคลเซียม 120 กรัม

ด้วยเหตุนี้ คอลลาเจนที่ดูดซึมได้เร็วและดีที่สุดจึงเป็น “คอลลาเจนไดเปปไทด์” นั่นเอง

เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวหย่อนคล้อยตามวัยช้าลง
รักษาความชุ่มชื้นในผิว
ลดเลือนริ้วร้อย ชะลอวัย รวมไปถึงฝ้า จุดด่างดำ
ลดกระบวนการสลายแคลเซียมในกระดูก
ดูแลข้อต่อกระดูก ทำให้ถูกนำไปใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคข้อเสื่อมนั่นเอง
ผมและเล็บแข็งแรง
กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด